อย่างที่ทุกท่านพอจะทราบมาแล้วบ้างว่า
รถไฟจีน-ลาว สายนี้ เป็นหนึ่งในโครงการอภิมหาโปรเจ็คของจีน ที่รู้จักกันในชื่อ Belt
and Road Initiative (BRI) หรือ One
Belt One Road (OBOR) โดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างจีนและประเทศต่างๆ รถไฟจีน-ลาว นี้ ถือเป็นรถไฟสายยุทธศาสตร์ในแง่ที่ต้องการเปิดเส้นทางออกในด้านการขนส่งสินค้ามายังภูมิภาคอาเซียน
ตลอดจนใช้แป็นเส้นทางเชื่อมโยงการขนส่งทางทะเลลงไปยังช่องแคบมะละกา
และเป็นการขยายตลาดรองรับสินค้าของจีนอีกด้วย
เส้นทางรถไฟจีน-ลาว
ที่เชื่อมต่อระหว่างคุนหมิง-กับเวียงจันทน์ ได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 3
ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เส้นทางรถไฟนี้ มีความยาวประมาณ
1,000 กิโลเมตร โดยมีความยาวในจีน 600 กิโลเมตร
และใน สปป.ลาว 400 กิโลเมตร (ดูภาพที่ 1) และสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 160-200
กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปัจจุบันนี้ รถไฟให้บริการโดยวิ่งออกจากเวียงจันทน์ วันละ 2
เที่ยว ใช้เวลาวิ่งถึงนครคุนหมิง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ประมาณ 10 ชั่วโมง ขณะที่เส้นทางใน
สปป. ลาว ประกอบด้วย 21 สถานี แบ่งเป็นสถานทีขนส่งผู้โดยสาร 10 สถานี
และสถานีขนส่งสินค้า 11 สถานี โดยเริ่มที่สถานีบ่อเต็น ในแขวงหลวงน้ำทา และผ่านเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างหลวงพระบาง
และวังเวียง โดยมีสถานีปลายทางสุดท้าย คือ
เวียงจันทน์ใต้ ซึ่งเป็นสถานทีขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รถไฟเส้นทางนี้ยังไม่สามารถให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนไปจีนได้
เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงให้บริการเฉพาะใน สปป.ลาว เท่านั้น
ภาพที่ 1 เส้นทางรถไฟจีน-ลาว
ที่มา:
BBC
News ไทย (2564)
อย่างไรก็ตาม
ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เปิดทำการในเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
การเดินทางและขนส่งทางรถไฟจน-ลาว มีความก้าวหน้าอย่างมาก
โดยเฉพาะด้านปริมาณการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า จากรายงานของ China Railway Kunming Group Co.,Ltd.
ระบุว่า มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟนี้แล้วมากกว่า 1 ล้านคน และมีการขนส่งสินค้ามากกว่า
500,000 ตัน โดยในจำนวนนี้ 126,600 ตัน
เป็นการขนส่งสินค้าข้ามประเทศผ่านรถไฟจีน-ลาวมากกว่า 300 ขบวน (Xinhua,
2022b) นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า บริการรถไฟขนส่งสินค้าข้ามประเทศที่ออกเดินทางจากนครคุนหมิงมายังปลายทางใน
สปป. ลาว มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยสินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุดในช่วงนี้ ได้แก่ อาหารสัตว์ ปุ๋ย
สินค้าด้านการสื่อสาร โซล่าร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ รถยนต์ และสิ่งทอ
ขณะปริมาณการขนส่งข้าว เบียร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร ก็มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น
(Xinhua, 2022a)
แน่นอนครับ จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่า การพัฒนารูปแบบและเส้นทางคมนาคมขนส่งให้มีความสะดวกขึ้น
ย่อมจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนในภาพรวมเพิ่มมากขึ้น จากการศึกษาของธนาคารโลกที่เปรียบเทียบค่าขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางคุนหมิง-แหลมฉบัง
ใน 4 เส้นทาง (ภาพที่ 2) พบว่า สถานการณ์ที่ 1
การขนส่งผ่านถนนเส้นทาง R3A มีต้นทุนค่าขนส่งประมาณ 2,565
บาทต่อตัน ขณะที่สถานการณ์ที่ 2 การขนส่งโดยรถไฟจีน-ลาว
และต่อรถบรรทุกที่ไทย มีต้นทุนประมาณ 1,652 บาท
หรืออาจกล่าวได้ว่า การขนส่งโดยรถไฟจีน-ลาว จะช่วยลดค่าขนส่งได้มากกว่า 1 ใน 3 ของค่าขนส่งทางถนนโดยใช้เส้นทาง
R3A (อภิชญาณ์ จึงตระกูล, สิรีธร จารุธัญลักษณ์ และศุทธาภา นพวิญญูวงศ์, 2564)
ด้วยเหตุผลดังกล่าว
น่าจะส่งผลให้นักธุรกิจชาวจีนและต่างชาติจะเข้ามาประกอบธุรกิจใน สปป.ลาว
และไทยเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
ผ่านทางรถไฟ เนื่องจากความสะดวกในการเดินทาง
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยรถไฟถูกกว่าเครื่องบินมาก แต่ใช้เวลาเดินทางใกล้เคียงกัน
ภาพที่ 2 ประมาณการค่าขนส่งสินค้าเส้นทางคุนหมิง-แหลมฉบัง
หากพิจารณาในแง่ของการส่งออก
ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีของสินค้าไทยจะส่งออกส่งสินค้าไปยัง
สปป.ลาวและจีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมณฑลยูนนาน
ที่ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรราว 50 ล้านคน ทั้งนี้สินค้าที่มีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น
ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลไม้สดและผลไม้แปรรูป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้มีการเปิดใช้งานเส้นทางรถไฟจีน-ลาว
มาเป็นระยะเวลามากกว่า 2 เดือนแล้ว
แต่ไทยยังไม่สามารถส่งสินค้าไปขายให้กับจีนโดยทางรถไฟได้
ทางการจีนยังไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าจากไทยโดยทางรถไฟ
โดยให้เหตุผลถึงความไม่พร้อมในการตรวจสินค้าขาเข้าบริเวณด่านโมฮาน-บ่อเต็น ณ
จุดพรมแดนจีน-ลาว และพิธีการศุลกากร
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ก็คือ
ผู้ประกอบการชาวไทยอาจจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นกับสินค้านำเข้าจากจีน
ทั้งในตลาดไทยและ สปป.ลาว เนื่องมาจากสินค้าจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่านั้น
ได้เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากสินค้าไทยไป หากไทยต้องการได้ประโยชน์จาก “รถไฟจีน-ลาว”
ต้องเร่งรัดข้อตกลงในเรื่องการเดินทางของนักท่องเที่ยวการขนส่งและขนถ่ายสินค้าระหว่าง
3 ประเทศนี้ให้ราบรื่นไม่มีรอยต่อ รวมไปถึงผลักดัน สนับสนุนส่งเสริม
และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุนไทย
สามารถออกไปดำเนินธุรกิจหรือลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น ผ่านแนวคิด “การส่งออกผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน”
แม้ว่าการเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟจีน-ลาว
อาจจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมและนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจในหลากหลายด้าน
แต่เมืองชายแดนทางภาคเหนือ อย่างจังหวัดเชียงราย
อาจจะได้รับผลกระทบในทางลบจากรถไฟเส้นทางดังกล่าว โดยในทางเศรษฐศาสตร์ได้อธิบายผลกระทบนี้ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า
Trade
diversion หรือการเบี่ยงเบนทางการค้า
กล่าวคือ ช่วงก่อนที่จะมีรถไฟจีน-ลาว
การที่จะส่งสินค้าออกไปยังจีน หรือนำสินค้าเข้าจากจีน จะใช้เส้นทาง R3A
เป็นหลัก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุด
ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก และมีต้นทุนขนส่งไม่สูงในขณะนั้น โดยเส้นทาง R3A นี้เชื่อมต่อจุดสำคัญของประเทศไทย สปป.ลาว และจีน ได้แก่ ด้านเชียงของ
จ.เชียงราย – ด่านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และด่านบ่อเต็นแขวงหลวงน้ำทา ในสปป.ลาว –
ด่านโมฮาน เมืองเชียงรุ้ง และนครคุนเหมิง มณฑลยูนนาน ในประเทศจีน
คิดเป็นระยะทางรวม 1,240 กิโลเมตร (ดูภาพที่ 3) จึงทำให้เส้นทางนี้ และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย มีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าการเกษตรของไทยไปยังจีน
และมีบทบาทในฐานะเส้นทางเชื่อมต่อการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของทั้ง 3 ประเทศอีกด้วย
ภาพที่
3 เส้นทางการขนส่งสินค้าไทย-ลาว-จีน โดยทางถนน R3A
ที่มา:
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (2020)
แต่ภายหลังจากที่ได้มีการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟจีน-ลาว
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
มีการคาดการณ์ว่าบทบาทและความสำคัญของเส้นทาง R3A จะลดน้อยลง
ปริมาณการค้า หรือมูลค่าการค้าผ่านด่านเชียงของ จ.เชียงราย จะลดลงอย่างมาก
เนื่องจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจ รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยว จะมีการเปลี่ยนเส้นทางการค้าไปยังด่านหนองคาย
เพื่อใช้บริการขนส่งและเดินทางโดยรถไฟเพิ่มขึ้นแทนที่การขนส่งทางบกผ่านด่านเชียงของ
นอกจากนั้น หากต้องการจะเดินทางหรือขนส่งสินค้าทางบกผ่านด่านเชียงของเพื่อไปเชื่อมต่อกับรถไฟจีน-ลาว
ณ ด่านบ่อเต็น-โมฮาน การเดินทางและขนส่งด้วยรถใน สปป.ลาว ระหว่างด่านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว
กับด่านบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ยังมีปัญหา อุปสรรคและความไม่สะดวกหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสภาพถนน กฎระเบียบทางการค้าและขนส่งที่มีความไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง
การเปลี่ยนหัวลากรถบรรทุกสินค้า พิธีการศุลกากร เป็นต้น ทำให้การเดินทางและขนส่งบนถนนผ่านเส้นทาง
R3A นี้ ใช้เวลานานถึง 2 วัน (จากนครคุนหมิงถึง จ.เชียงราย
ขณะที่รถไฟจากคุนหมิงถึง จ. หนองคาย ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง) และมีต้นทุนที่สูงกว่า
เมื่อเทียบกับการขนส่งด้วยรถไฟที่ (ดูภาพที่ 1)
เพื่อรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
จังหวัดเชียงราย อาจจะต้องดำเนินการเร่งเปิดด่านพรมแดน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ว่าจะเป็น ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก
ด่านเชียงของ-ห้วยทราย รวมไปถึงจุดผ่อนปรนต่างๆ รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมโยงและส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวภายในประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นระดับกลุ่มจังหวัด หรือภูมิภาคก็ตาม
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ. 2562. เส้นทาง R3A: ไทย-ลาว-จีน
ทางสายไหม-ส่งออกสินค้าการเกษตรและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. [ออนไลน์]. 11
กันยายน 2562. แหล่งที่มา: https://bit.ly/3rL04Yz
ประชาชาติธุรกิจ. 2564. รถไฟจีน-ลาวขาดดุลเพิ่ม สินค้าทะลัก 200 ตู้ถล่มไทย. [ออนไลน์]. 18
ธันวาคม 2564. แหล่งที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-823947
ไทยโพสต์. 2564. มองรถไฟสายจีน-ลาว-ไทย ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์. [ออนไลน์]. 6 ธันวาคม 2564. แหล่งที่มา:
https://www.thaipost.net/columnist-people/39316/
BBC News ไทย. 2564. รถไฟลาว-จีน: เปิดประสบการณ์ 2 ชั่วโมง
เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ที่ความเร็ว 155 กม. [ออนไลน์]. 25 ธันวาคม 2564.
แหล่งที่มา: https://www.bbc.com/thai/59764529
BBC News ไทย. 2564. รถไฟลาว-จีน: 6 เรื่องน่ารู้ของโครงการมูลค่าเกือบ
2 แสนล้านบาทเชื่อมคุนหมิง-เวียงจันทน์. [ออนไลน์]. 2 ธันวาคม 2564. แหล่งที่มา: https://www.bbc.com/thai/international-59498032
อภิชญาณ์
จึงตระกูล,
สิรีธร จารุธัญลักษณ์ และศุทธาภา นพวิญญูวงศ์. 2564. เปิดหวูดรถไฟจีน-ลาว: นัยต่อเศรษฐกิจไทย. [ออนไลน์]. 2564 แหล่งที่มา: https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/RegionalEconomy/DocLib14/RL_china-laos%20railway.pdf
วรากรณ์
สามโกเศศ. 2564. ข้อมูล “รถไฟจีน-ลาว”. [ออนไลน์].
27 ธันวาคม 2564. แหล่งที่มา https://www.bangkokbiznews.com/columnist/979571
Xinhua. 2022a. China-Laos
Railway transports over 1 million passengers since launch. [Online]. 30 January 2022. Retrieved from: http://www.news.cn/english/20220130/1002b86924c441a9af69edf0b3df3d58/c.html?fbclid=IwAR32epQoiNJ7DdyxS-gtxX4cuEQm916rJWYg5wVqkWk1aHAeOdfDSo4HHjg
Xinhua. 2022b. Int’l freight
via China-Laos Railway exceeds 20,000 tonnes in Spring
Festival holiday. [Online]. 7
February 2022. Retrieved from: http://www.xinhuanet.com/english/20220207/78b7ffdd74dc43d09f0492877bf25425/c.html?fbclid=IwAR0pehaT2CjWApb3kGG-YO_VHDSkNvWFmZlouAx0KecNFbb5WLIeWrLbIgc